ชาวเกาะ แบรนด์น้ำกะทิไทยแท้ นวัตกรรมอาหารไทย ยอดขายพันล้านที่โด่งดังไปทั่วโลก

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ชาวเกาะ แบรนด์น้ำกะทิไทยแท้ นวัตกรรมอาหารไทย ยอดขายพันล้านที่โด่งดังไปทั่วโลก

Date Time: 11 พ.ย. 2566 15:00 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • Thairath Money พาไปรู้จักกับ กะทิสำเร็จรูป “ตราชาวเกาะ” ผู้ส่งออกกะทิสำเร็จรูปรายแรกของไทย ที่ขึ้นแท่นเป็นเจ้าแห่งตลาดกะทิระดับโลก อีกหนึ่งแบรนด์ไทยแท้ที่โกอินเตอร์มากว่าครึ่งศตรวรรษ พร้อมย้อนเส้นทางปั้นธุรกิจแปรรูปการเกษตรหมื่นล้านของ ‘ตระกูลเทพผดุงพร’ ที่มองการณ์ไกลว่าอาหารแปรรูปไทยจะกลายเป็นที่ต้องการของครัวโลก

Latest


แบรนด์สตอรี่บทความนี้ขอตอกย้ำความปังของประเทศไทย กับสถานะการเป็น “ครัวของโลก” อีกหนึ่งบทบาทที่หลายภาคส่วนร่วมผลักดันให้บ้านเราติดอันดับสิบของผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ และเป็นผู้รังสรรค์วัตถุดิบ สารพัดปรุงรสสุดพิถีพิถันสู่ห้องครัวประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยอาศัยความแข็งแกร่งขออุตสาหกรรมอาหารและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติมากมาย

ซึ่งหากพูดถึงหนึ่งวัตถุดิบที่กลายเป็นมรดก และนวัตกรรมชั้นยอดของวัฒนธรรมอาหาร นั่นก็คือ “น้ำกะทิ” หรือ Coconut Milk ที่ได้จากการสกัดคั้นน้ำและเนื้อของมะพร้าวแก่ ส่วนผสมสำคัญที่อยู่ในเมนูอาหารไทยเด็ดๆ ทั้งคาวและหวานอย่างต้มข่าไก่ แกงพะแนง แกงเขียวหวาน กล้วยบวชชี ข้าวเหนียวมะม่วง เรียกได้ว่า กะทิ แพร่หลายในการวัฒนธรรมการทำอาหารโดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่สำคัญ รสชาติเข้มข้นหอมมันยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติอย่างมากอีกด้วย

ChaoKoh เส้นทางครองแชมป์กะทิอันดับ 1 ของโลกด้วยยอดขายพันล้านต่อปี

นายอำพล และภรรยา นางจรีพร เทพผดุงพร สองเกษตรกรชาวธนบุรี ผู้ก่อตั้ง โรงงานแปรรูปกะทิสำเร็จรูปแห่งแรกขึ้นในประเทศไทย ให้กำเนิด น้ำกะทิตราชาวเกาะ จากธุรกิจค้าปลีกและขายส่งมะพร้าวลูกทางเรือ สู่ ธุรกิจผู้แปรรูปอาหารจากมะพร้าวและพืชผลทางการเกษตรไทยเพื่อการส่งออก หลังจากมองเห็นโอกาสการเติบโตของ ‘วัตถุดิบอาหารไทย’ ที่จะกลายเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งไทยและตลาดโลก 

โรงงานชาวเกาะ ก่อตั้งขึ้นในปี 2519 ภายใต้การจัดตั้งของ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด โดยหยิบยกคำว่า “ชาวเกาะ” มาใช้เป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ มีที่มาจาก “เกาะสมุย” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวชั้นเยี่ยมของประเทศในขณะนั้น สร้างความมั่นใจว่า กะทิมาจากแหล่งที่มาสดใหม่จริง 

คัดสรรมะพร้าวไทย พัฒนาสู่นวัตกรรมอาหาร เพื่อตีตลาดให้โลกเห็นของจริง 

น้ำกะทิสำเร็จรูป เป็นนวัตกรรมอย่างไร? กล่าวคือ ชาวเกาะ เห็น pain point สำคัญ คือ คนสมัยใหม่ต้องการความง่าย และความสะดวกสบายมากขึ้นในทุกกิจกรรมโดยเฉพาะการทำอาหาร ทำให้ช่วงแรกๆของการนำเสนอ กะทิสำเร็จรูปคือ การทำให้เกิดลูกค้าไว้วางใจว่า กะทิสำเร็จรูปสามารถเก็บรักษาได้ 

ไม่ต้องคั้นกะทิให้เสียเวลา

หากแม่บ้านยุคใหม่ที่อยากทำเมนูแกงขึ้นมา การคั้นกะทิสดหรือหากะทิสดในตลาดก็อาจจะใช้เวลานานพอสมควร กะทิสำเร็จรูปที่สามารถเปิดฝา เทใช้ได้ทันที สามารถตอบโจทย์จุดนี้ อีกทั้งยังมั่นใจในคุณภาพสินค้าได้ว่าเป็นกะทิแท้ 100% รักษาความสดจากมะพร้าว มีรสชาติหอมมันเข้มข้นไม่ต่างจากกะทิสด แถมยังมีขนาดหลากหลายให้เลือกใช้ตามความต้องการ และยังยืดอายุใช้งานที่นานกว่ากะทิคั้นสดหลายเท่า จึงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี  

แน่นอนว่าชื่อเสียงยาวนานเกือบ 50 ปี ทำให้ผู้คนมั่นใจและเกิดการบอกต่อๆ กัน แม้ครั้งหนึ่งจะถูกโจมตีเรื่องการใช้ลิงปีนเก็บมะพร้าว และถูกแบนจากห้างชื่อดังในสหรัฐฯ เป็นข่าวใหญ่โต แต่ กะทิชาวเกาะ ยังคงพิสูจน์ถึงการควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานในระดับสากลอยู่เสมอ 

นอกจากนี้ ตระกูลเทพผดุงพร ยังคงพัฒนาสินค้า ทดลองแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรที่มีอยู่มากมายในประเทศให้ออกมาเป็นอาหารสําเร็จรูปรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคและผู้จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ผ่านการไลน์ผลิตและกำลังผลิตที่ขยายเพิ่มเติมในโรงงานอีกสอง ได้แก่ "โรงงานอำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง” จัดจำหน่ายกะทิสำเร็จรูปและแปรรูปผลไม้ไทยอื่นๆ “โรงงานแม่พลอย” เจาะกลุ่มซอสและผงปรุงรสภายใต้แบรนด์ ‘แม่พลอย’ ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากพืชพันธุ์ธัญญาหารจากภาคเกษตรของไทย รวมแล้วมากกว่า 200 รายการ โดยมีโปรดักต์ฮิตๆ คุ้นตาอย่าง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพตรา V-Fit, น้ำแกงพร้อมปรุงตรารอยไทย,  ซอสปรุงรสตรากู๊ดไรท์  เป็นต้น   

ปั้นแบรดน์กะทิไทยแท้ให้เป็น Global Brand 

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แบรนด์ชาวเกาะ คือ ‘กะทิพาสเจอไรซ์’ บรรจุถุง บรรจุขวด และกะทิกล่องยูเอชที เพื่อขายในตลาดไทย เพราะมีระยะเวลาเก็บเพียง 1 ปี เน้นเจาะกลุ่มครัวเรือน ร้านอาหาร ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ ในประเทศ ต่อเนื่องด้วย ‘กะทิกระป๋อง’ ที่ผ่านการฆ่าเชื้อและสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี ซึ่งในส่วนนี้จะเน้นการส่งออกต่างประเทศถึง 90% 

กะทิชาวเกาะ ครองสัดส่วนตลาดกะทิโลกอยู่ประมาณ 30-40% ที่มีมูลค่ากว่า 7,500 ล้านบาท ปัจจุบันธุรกิจดูแลโดย เอกศักดิ์ นันทินี และ ชวพร เทพผดุงพร ทายาทรุ่นสามเจเนอเรชันล่าสุดที่เข้ามารับช่วงต่อ สร้างรายได้ปีละพันล้านพร้อมด้วยกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง มียอดส่งออกต่างประเทศกินสัดส่วนกว่า 80% ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ากว่า 27 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลียแอฟริกา สหรัฐอเมริกา แคนาดา สองตลาดหลัก สำหรับยอดขายในประเทศอยู่ที่ 20% และหาซื้อง่ายตามร้านขายขำทั่วไป ไฮเปอร์มาเก็ตตลอดห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วประเทศ

ผลดำเนินงานย้อนหลังล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุ ปี 2565 บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด จำกัด ทำรายได้ไป 8,067 ล้านบาท ฟาดกำไรไปถึง 1,443 ล้านบาท ปี 2564 รายได้ 7,195 ล้านบาท กำไร 891 ล้านบาท ปี 2563 รายได้ 6,283 ล้านบาท กำไร 94 ล้านบาท 

หากดูเทรนด์โลกจะเห็นว่าตลาดกะทิมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย นอกจากนี้การส่งออกกะทิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากจำนวนร้านอาหารไทยที่เปิดในต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงเทรนด์สุขภาพที่หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มาจากมะพร้าวมากขึ้น 

กลุ่มเทพผดุงพรยังคงเดินหน้าแตกไลน์ผลิตสู่การเป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์มะพร้าวอย่างครบวงจร เป็น "กูรูด้านมะพร้าว" พร้อมรุกสร้างภาพจำในตลาดโลก เดินสายเทรดแฟร์อาหารระดับโลกทุกภูมิภาค เพื่อสร้างการยอบรับในฐานะ Global Brand ต่อไปในอนาคต 

  


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์