บ้านปู ส่งเสริม "Karen Design" ที่ใช้ "กะเหรี่ยงคราฟต์" แก้ปัญหา "เผาป่า - ชุมชนขาดรายได้" 1 ใน 3 สุดยอดกิจการเพื่อสังคมที่คว้าทุนสนับสนุน ในโครงการ BC4C ปีที่ 13
ชุมชนแม่โถน้อย บนยอดดอยสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ "ชาวกะเหรี่ยง" ที่พึ่งพาการปลูกข้าวโพดเป็นรายได้หลัก กำลังเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำไร่ข้าวโพดแบบดั้งเดิมไม่สามารถสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับชุมชน และการเผาพื้นที่เพาะปลูกทุกปี ยังก่อให้เกิดมลพิษ PM 2.5 อีกด้วย
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ วิถีชีวิตและภูมิปัญญาการทอผ้าของชาวกะเหรี่ยงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจใหม่ในการสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวของสองพี่น้องผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม "Karen Design" (คาเรน ดีไซน์) อย่าง นางสาวจีรพันธ์ และ นายชุณวัณ บุญมา ที่นำเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงมาผสานเข้ากับดีไซน์ที่ทันสมัย จนกลายเป็นงานคราฟต์ 2 สไตล์ได้อย่างลงตัว
โดย "แฟชั่นผ้าทอสไตล์กะเหรี่ยง" ถูกปรับโฉมให้ร่วมสมัย ใส่ได้ทุกวันแบบไม่เคอะเขิน และ "โคมไฟจากเปลือกข้าวโพด" ที่นำวัสดุเหลือทิ้งมาสร้างเป็นงานคราฟต์ที่มีเอกลักษณ์ โดยหลังการเข้าร่วมโครงการ "พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม" (Banpu Champions for Change: BC4C) ปีที่ 13 กับ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และสถาบัน ChangeFusion สองพี่น้องสามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้จนสามารถสร้างรายได้ถึงหลักแสนและเพิ่มการกระจายรายได้ให้ชุมชนในเวลาไม่ถึง 1 ปี
นางสาวจีรพันธ์-นายชุณวัณ บุญมา สองพี่น้องผู้ก่อตั้ง Karen Design เผยถึงความเป็นมาของกิจการนี้ว่า “Karen Design เกิดจากปัญหาปากท้องของคนในชุมชนแม่โถน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีทางเลือกในการทำมาหากินไม่มากไปกว่าการปลูกข้าวโพดและธัญพืชอื่นๆ บนดอย มีความลำบากในการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐาน เช่น การไม่มีไฟฟ้าใช้เวลาฝนตก สัญญาณโทรศัพท์ติดขัด การเดินทางที่ยากลำบากเพราะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ความอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ จึงนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกมองข้ามอย่างการทอผ้ากะเหรี่ยงมาต่อยอดให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทำให้สามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่เชย และ ไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะพิธีสำคัญเท่านั้น
เมื่อเห็นลู่ทางนี้จึงขยายเครือข่ายรวมกลุ่มแม่บ้าน และดัดแปลงสินค้าให้มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ ชุดเดรส ย่าม และอื่นๆ รวมไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ "เปลือกข้าวโพด" วัสดุเหลือทิ้งจากการเก็บเกี่ยวในภาคการเกษตรให้เป็นโคมไฟตกแต่งที่ทันสมัย สไตล์มินิมอล ตอบโจทย์คนชอบแต่งบ้านด้วยวัสดุธรรมชาติ
"เราเริ่มต้นด้วยการคำนวณต้นทุนและตั้งราคาขายโดยการกำหนดกำไรที่เหมาะสม พร้อมศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียด โดยโครงการฯ ให้ทุน 80,000 บาท ในช่วงทดลองตลาด 3 เดือน จึงเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะการโปรโมทบน TikTok ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้สามารถสร้างยอดขายสินค้าทั้ง 2 แบบ ได้เกือบ 250,000 บาท แบ่งเป็นออเดอร์ผ้าทอกะเหรี่ยงกว่า 200 ตัว สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน 2,000 – 5,000 บาทต่อเดือน และออเดอร์โคมไฟจากเปลือกข้าวโพด จำนวนกว่า 80 ตัว สร้างรายได้ต่อคนประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน" นางสาวจีรพันธ์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยชวนชาวบ้านลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดและหันมาเพาะปลูกไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ และไม้ดั้งเดิมทดแทนปัจจุบันสามารถลดจำนวนข้าวโพดได้มากกว่า 50% หรือประมาณ 195 จาก 390 ไร่ ช่วยลดการเผาป่าและเพิ่มความหลากหลายทางการเกษตรให้กับพื้นที่ในอนาคต และยังวางแผนขยายฐานการผลิตไปยังชุมชนอื่นๆ เพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นด้วย