"ทราย สก๊อต" โพสต์ภาพ "ฉลาม" ติดเบ็ดตายใต้ทะเลเกาะห้า แหล่งดำน้ำดังกระบี่ เชื่อมีการลักลอบเข้าไปทำประมงผิดกฎหมาย วอนเจ้าหน้าที่กวดขันมากขึ้น บอกเห็นแล้ว "สงสาร" สัตว์ทะเล
วันที่ 6 ธ.ค. 67 นี่เป็นคลิปวิดีโอที่นายสิรณัฐ หรือทราย สก๊อต นักอนุรักษ์ใต้ทะเลชื่อดัง นำมาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเอง เป็นภาพของฉลามครีบดำตัวหนึ่ง ที่ตายอยู่ในกองหินปะการัง โดยพบว่าที่ตัวของฉลามตัวนี้ มีเส้นเอ็นสำหรับตกปลาพันอยู่ตามลำตัว คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้มันไม่สามารถว่ายน้ำ และขึ้นไปหายใจเหนือผิวน้ำได้ และตายลงในที่สุด เป็นภาพที่นักดำน้ำเห็นแล้วสลดหดหู่มาก
ทราย ระบุข้อความไว้บนโพสต์ด้วยว่า "ฉลามติดเบ็ดตกปลาจากกิจกรรมลักลอบทำประมง ที่อุทยานหมู่เกาะลันตา ทราย ได้รับคลิปนี้มาจากเพื่อนๆ ที่ไปเจอศพฉลาม black tip (สัตว์คุ้มครอง) ติดเบ็ดตกปลาซึ่งเป็นสายเอ็นตกปลาที่ติดตามแนวปะการังและคาดว่าฉลามว่ายไปโดน หรือเป็นเหยื่อ จากการลักลอบตกปลาในพื้นที่อุทยานซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ตอนนี้เพื่อนๆ ได้นำขึ้นมาแล้ว ทรายได้แจ้งทางอุทยานแล้ว แต่เดือนนี้มีคนส่งภาพถ่ายของกิจกรรมลักลอบทำการประมง เป็นรูปแบบทัวร์และพาณิชย์มาเยอะมาก ใน zone เกาะ 5 เกาะ 6 ซึ่งเป็น zone ดำน้ำท่องเที่ยว ธรรมดาจะมีโป๊ะ/เรืออุทยานจอดคอยดูแลจอดอยู่ที่เกาะ 5 แต่ตอนนี้นำไปซ่อมแซมเลยมีเรือยางมาจอดเช็คเป็นช่วงๆ ในพื้นที่ อยากให้ทุกคนช่วยประสานและคอยเป็นหูเป็นตานะครับ เพราะการคุกคามมันเกิดขึ้นตลอดเวลา ส่งกำลังใจให้ จนท.หน้างานที่ต้องรับมือกับการลักลอบในช่วงนี้"
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังทราย สก๊อต ทราบว่า เหตุการณ์ตามในคลิป ถูกพบเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มเพื่อนนักดำน้ำของตนไปเจอเข้า และถ่ายคลิปส่งมาให้ เป็นภาพของฉลามที่ตายเพราะถูกเอ็นตกปลารัดตามตัว โดยเอ็นตกปลาเหล่านี้ น่าจะไปพันเกี่ยวกับโขดหินปะการังจึงถูกตัดทิ้งไว้ จนฉลามว่ายมาติดดังกล่าว ตนเห็นแล้วสงสารสัตว์ทะเลในธรรมชาติที่ต้องมาจบชีวิตเพราะกิจกรรมของมนุษย์ เกาะห้า ถือเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงาม อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ปัจจุบันทราบว่า มีการลักลอบเข้าไปทำประมงผิดกฎหมายบ่อยมาก จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ช่วยกวดขันให้มากกว่านี้ และเตือนไปยังคนที่ลักลอบเข้ามาตกปลาในเขตนี้ ขอให้หยุดเสียด้วย
ด้าน นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปตรวจสอบ และสอบถามผู้ประกอบการดำน้ำแล้ว ทราบว่า นักดำน้ำเจอซากฉลามจริง และมีเบ็ดติดอยู่ด้วย จากเหตุการณ์สรุปได้ว่า เป็นการลักลอบการตกปลาในบริเวณเกาะห้าช่วงเวลากลางคืน ในขณะที่เจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว เพราะโดยปกติจะมีแพศูนย์บริการลอยน้ำอยู่ที่เกาะห้า และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ในแพตลอด 24 ชม. แต่เนื่องจากแพศูนย์บริการลอยน้ำเสียหาย ชำรุดหนัก ไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงไม่มีแพ และไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ในเวลากลางคืน จึงไปดูแลเกาะห้าด้วยเรือยาง ในช่วงเวลา 08:30-17.00 ทุกวันแทน
เบื้องต้นแก้ปัญหาด้วยการประสานยืมแพลอยน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ไปไว้ที่เกาะห้า อช.หมู่เกาะลันตาได้ไม่เกินกลางเดือน ธ.ค.นี้ จะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่เกาะห้า ได้ตลอดเวลา 24 ชม. ป้องกันเรือประมงแอบเข้ามาทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาต่อไป