โลกร้อนปีนี้อาละวาดรุนแรง "อ.ธรณ์" เผย Rain Bomb ถล่มสเปน แค่ 8 ชั่วโมงมากกว่าฝนทั้งปีรวมกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันระดับหายนะ วอนคนตระหนักถึงผลกระทบจากวิกฤติสิ่งแวดล้อม
วันที่ 31 ต.ค. 2567 มีรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สเปน นับเป็นอุทกภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ตั้งแต่เหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2516 ซึ่งล่าสุด มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 95 ศพ และยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบราย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า "โลกร้อนทำให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวนสุดขีด ฝนแบบ Rain Bomb ถล่มลงมาแค่ 8 ชั่วโมง มากกว่าฝนทั้งปีรวมกัน เกิดน้ำท่วมฉับพลันระดับหายนะในวาเลนเซียและเมืองใกล้เคียง ถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 72 ราย (อัปเดต) บ้านเรือนทรัพย์สินเสียหายแบบไม่เคยมีมาก่อน สเปนประกาศภาวะฉุกเฉิน กำลังเร่งช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ตามที่ต่างๆ อย่างเร่งด่วน
ขอแสดงความเสียใจกับความสูญเสียในสเปน โลกร้อนปีนี้อาละวาดรุนแรงเหลือเกิน ถ้ายังไม่ตระหนักกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากก๊าซเรือนกระจกที่พวกเราปล่อยไป ก็คงไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วครับ"
Rain Bomb คืออะไร
ทั้งนี้ ผศ.ดร.ธรณ์ ได้เคยให้ความรู้เกี่ยวกับ Rain Bomb ว่า Rain Bomb เป็นคำใหม่ ไม่ถูกใช้เป็นทางการ แต่ความหมายทั่วไปคือฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ปริมาณน้ำฝนในช่วงเวลาสั้น ๆ ทะลุขีดจำกัด ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
เนื่องจากเป็นศัพท์ใหม่ จึงไม่มีการฟันธงว่านี่คือปรากฏการณ์ "ระเบิดฝน" หรือไม่? แต่ว่าง่าย ๆ คือเหมือนฟ้ารั่ว เนื่องจากน้ำจากฟ้าถล่มลงมาอย่างรุนแรงในช่วงแสนสั้น การรับมือแบบดั้งเดิมจึงมีปัญหา ผลกระทบจึงมาสู่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนการทำมาหากินของพวกเรา
ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไป เฉพาะช่วงนี้ก็มีทั้งน้ำท่วมภูเก็ต ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ ภาพรถที่ลอยไปตามน้ำไหลหลากดูน่ากลัว จนบางคนเปรียบเทียบว่า เหมือนสึนามิจากฟ้า
Rain Bomb อาจแฝงมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคโลกเดือด เพราะมหาสมุทรร้อน น้ำระเหยมากขึ้น อากาศร้อนเพิ่มขึ้น เมฆมีน้ำอยู่มากมายพร้อมทะลักทลายจากบนฟ้าในช่วงสั้น ๆ
หากตกลงบนเขาหรือในป่า อาจเกิดน้ำไหลหลากฉับพลันลงมาในเมืองตามถนนหนทางที่กลายเป็นทางน้ำ รวมถึงโคลนถล่มตามมาในพื้นที่ไม่เคยเกิด เช่น หายนะที่ลิเบีย
หากตกลงในเมืองที่ราบแบบกรุงเทพ น้ำท่วมเร็วมาก น้ำเข้าบ้านโดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง น้ำท่วมรถติดบนถนน ทำทรัพย์สินเสียหาย คำว่าบอมบ์หมายถึงเกิดฉับพลันแล้วหายไป น้ำท่วมแบบนี้จึงไม่นาน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว
การคาดการณ์ล่วงหน้าทำแทบไม่ได้ในระยะยาว ปกติก็เป็นการทำนายทั่วไปในพื้นที่กว้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรนบอมบ์กำลังมา ให้เอารถขึ้นที่สูง ป้องกันน้ำเข้าบ้านทุกวิถีทาง ฯลฯ
เน้นย้ำว่าเป็นคำทั่วไป ไม่ใช่ศัพท์ทางวิชาการ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำนายแบบเป็นทางการว่าจะเกิดเรนบอมบ์ ต่างจากทำนายสึนามิหรืออื่น ๆ
เราจึงต้องระวังรักษาตัวเองและทรัพย์สินให้มากที่สุด เช่น ศึกษารอบบ้านให้ดี ดูเส้นทางน้ำหลาก ดูพื้นที่ลุ่ม ดูปัจจัยเสี่ยง ฯลฯ มันยากจังเลย ใช่ครับ โลกยุคนี้อยู่ไม่ง่ายแน่นอน และจะยากขึ้นเรื่อย ๆ จะไปหวังพึ่งใครก็ไม่ได้มาก เราต้องช่วยตัวเองให้ถึงที่สุด รวมถึงเลิกคิดแบบเดิม ๆ ว่าจะมีการเยียวยาชดใช้ เพราะรอไปเหอะ เราคงไม่ได้อะไรมากหรอก โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.