• Future Perfect
  • Articles
  • "เอ ไชยา" มีวันนี้เพราะการศึกษา ขอบคุณ "ไทยรัฐวิทยา" ให้โอกาสเด็กกำพร้า-ยากจน

"เอ ไชยา" มีวันนี้เพราะการศึกษา ขอบคุณ "ไทยรัฐวิทยา" ให้โอกาสเด็กกำพร้า-ยากจน

Sustainability

ความยั่งยืน8 ต.ค. 2567 10:00 น.

เป็นอีกหนึ่งคนที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก สำหรับพิธีกร-พระเอกลิเกชื่อดัง เอ ไชยา มิตรชัย ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะการศึกษาที่ร่ำเรียนมา 

โดย เอ ไชยา ได้พูดถึงความสำคัญของการศึกษา พร้อมพูดถึงโอกาสที่เคยได้รับเมื่อครั้งที่เรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 โรงเรียนที่มีแต่ความทรงจำที่ดี และมอบโอกาสทางการศึกษาให้เด็กๆ ยากจน และเด็กกำพร้าที่วัดสระแก้ว ได้มีโอกาสทางการศึกษา ซึ่งเอได้เปิดใจเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวในวัยเด็กที่ได้เรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 

ความทรงจำดีๆ เมื่อครั้งเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6

จริงๆ โรงเรียนสร้างอยู่ในวัดสระแก้ว และที่ผมอยู่ก็จะมีเพื่อนพ้องน้องพี่เยอะแยะมากมาย เด็กวัดก็มีเกเรบ้าง เชื่อไหมครับ ครูดุมาก คุณครูเรียกไปตีประจำเลยครับ แต่นั่นมันคือภาพความทรงจำสมัยวัยเด็กผมเชื่อเลยว่าหลายๆ คนต้องมี ก็จะมีครูประจำชั้น ครูฝ่ายปกครอง

แต่ครูใหญ่คือครูนิคม เป็นคนที่น่ารักมาก ผมจะเรียกท่านว่าพ่อ พ่อนิคมน่ารักที่สุด และพ่อจะเข้าใจชีวิตเด็กกำพร้าเพราะว่าไม่ใช่แค่เด็กที่ยากจนนะครับที่ได้เรียนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 แต่มีเด็กที่ถูกทิ้ง กำพร้าพ่อกำพร้าแม่มาอยู่รวมกันที่นั่น และก็ได้เรียนที่ไทยรัฐวิทยา 6

ผมบอกเลยนะว่ามันมีอาคารโรงเรียนเก่าอยู่ ที่เป็นโรงเรียนของวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นอาคารไม้ เชื่อไหมว่าพอไทยรัฐวิทยา 6 ไปสร้าง ผมมีปณิธานว่าผมจะสอบตกไม่ได้ เราจะต้องได้เรียนชั้น ป.5 และ ป.6 เพราะเราจะได้ขึ้นอาคารใหม่ มันเป็นอาคารใหม่ที่ปลื้มใจมากๆ

เราก็เลยตั้งใจว่าจะต้องเรียนและสอบผ่านให้ได้ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นแล้วติดตา นอกจากจะเป็นอาคารเรียนแล้ว รู้ไหมครับว่ายังเป็นอาคารเอนกประสงค์ด้วยนะ เพราะว่าสามารถใช้ใต้ถุนอาคารซ้อมกิจกรรมต่างๆ

โดยเฉพาะในวัดสระแก้วก็จะมีลิเกด้วย จะมีลิเกแต่ละคณะมาไปเปิดเทปรำมโนราห์ ใช้ใต้ถุนของอาคารโรงเรียนไทยรัฐเป็นอาคารซ้อมรำได้ด้วยครับ นี่คือความประทับใจและผมก็ยังติดตาอยู่เลยนะ

การศึกษานั้นสำคัญ และสร้างโอกาสให้กับผม 

ที่ผมประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ นี่ก็คือสิ่งหนึ่งของการศึกษา เพราะพ่อผมเขาเห็นแววแล้วว่าตอนนั้นพี่มีการแสดงลิเกด้วย พ่อเป็นคนบอกเลยว่า เอจุดประสงค์ที่พ่อให้มาอยู่วัดสระแก้วก็เพื่อให้หนูได้เรียนต่อนะลูก หนูจะต้องเรียนให้จบ

ไม่ว่าวันข้างหน้าเอจะประสบความสำเร็จในเรื่องของการแสดง จะเป็นพระเอกลิเก จะเป็นพระเอกหนัง จะเป็นนักร้อง แต่พ่อขอร้องว่าอย่าทิ้งการเรียน ต้องเรียนให้จบนะลูก

คำพูดของพ่อก็ยังก้องอยู่ในหัวของผมเสมอว่าผมต้องเรียน ในขณะเดียวกันถามว่าผมง่วงไหม ง่วงมากเลยครับ เพราะว่ากลางคืนเราไปเล่นลิเก เช้าเราไปโรงเรียน แต่ผมฝืนไปจนผมประสบความสำเร็จได้ในปัจจุบันนี้เพราะการศึกษาจริงๆ

ผมก็เลยให้ความสำคัญกับการศึกษา แล้วก็จะบอกเลยว่า ส่งต่อความสำคัญนี้ เวลาช่วงที่เราเป็นพ่อก็เลยบอกกับลูกว่า เรียนนะลูก พ่อเองก็เรียน เพราะฉะนั้นนะครับโอกาสของการศึกษาเลยอยากจะบอกว่า มันมีความสำคัญจริงๆ

มูลนิธิไทยรัฐมอบโอกาสด้านการศึกษา

ผมเคยได้ทุนของไทยรัฐวิทยาด้วยนะ และไม่ใช่แค่ของผมนะที่ได้โอกาสจากไทยรัฐวิทยา เด็กๆ กำพร้า 2,500 คน ได้ใช้อาคารเรียนนั้นหมดเลย

ถ้าไทยรัฐไม่ไปขึ้นอาคารเรียนและไม่ไปต่อยอดตรงนั้น โรงเรียนแถวนั้นจะไม่เพียงพอกับเด็ก ไม่พอจริงๆ แล้วเด็กต้องไปที่ไหน เด็กบางคนจะต้องกระจัดกระจายไป หรือบางคนก็อาจจะไม่ได้เข้าเรียนเลย มันเลือกไม่ได้จริงๆ เพราะวัดสระแก้วเป็นเด็กกำพร้าและเด็กที่ยากจน เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ของป๊ะนะครับ ในตอนนั้นที่ป๊ะกำพลยังอยู่ และป๊ะก็ไปสร้าง มันไม่ได้แค่เด็กกำพร้าวัดสระแก้ว ป๊ะไปสร้างโรงเรียนเอาไว้ให้กับหลายๆ ที่

มันก็เลยต่อยอดและต่อโอกาสให้ ผมขออนุญาตจริงๆ นะ เพื่อนของผมที่จบไป แม้กระทั่งรุ่นพี่ที่จบจากไทยรัฐวิทยา 6 ไปเป็นนายพล นายพัน เป็นคุณหมอ เป็นข้าราชการ ไปมีหน้าที่การงานที่ดีมากแล้ว แม้แต่ตัวผมเอง ไชยา มิตรชัย ผมก็เป็นศิษย์เก่าไทยรัฐวิทยา 6 เพราะฉะนั้นนี่แหละครับ เป็นการตอกย้ำว่า ไทยรัฐวิทยา 6 ให้อะไรกับเราได้บ้าง

ให้เราได้จบการศึกษา ให้เรามีการศึกษาที่ดี แล้วก็เรียนอยากภาคภูมิใจในตอนนั้นนะครับ ผมภูมิใจมากนะครับกับการได้เรียนโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6


ขอบคุณในเมตตาที่ทำให้เด็กได้เรียน

ผมกราบขอบพระคุณในเมตตาของผู้ใหญ่ใจดีหลายๆ ท่านนะครับ ที่บริจาคสมทบทุนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การศึกษาก็ดี ที่อุปถัมภ์ค้ำชูและสนับสนุนให้กับโรงเรียนไทยรัฐของเรามาตลอด ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ใจดีบอกเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การศึกษา บางทีมันขาดแคลนจริงๆ

ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนของพี่ๆ น้องๆ ที่จบการศึกษามาแล้ว ผมกราบขอบพระคุณในน้ำใจ ในความเมตตาของคุณพ่อคุณแม่คุณพี่คุณน้องนะครับ และหน่วยงานทุกท่านเลย ที่มีน้ำจิตน้ำใจหยิบยื่นตรงนี้ เหมือนท่านได้คืนกำไรให้กับสังคมด้วย

ท่านมีโอกาสได้ช่วย จะช่วยมากช่วยน้อย มันคือพระคุณและก็บุญคุณจริงๆ ครับ ที่ทำให้พวกเราได้มีสมุด 1 เล่ม มีดินสอ 1 แท่ง มียางลบ 1 ก้อน มีไม้บรรทัด ทำให้เป็นอุปกรณ์การศึกษาที่เราไปต่อยอดและได้เรียน

ผมกราบขอบพระคุณจริงๆ ขออานิสงส์ผลบุญนี้ให้ย้อนกลับไป ขอให้ครอบครัวของทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมความมุ่งมั่นปรารถนาทุกสิ่งทุกประการ กราบขอบพระคุณในน้ำใจจริงๆ ครับ