ทงเวย โซลาร์ มองนโยบายภาครัฐหนุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ภาคครัวเรือน พร้อมคาดการณ์การติดตั้งพลังงานทดแทนขยายตัวกว่า 27% ภายในปี 2570
นางสาวลี่ เหยียน รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ PV บริษัท ทงเวย โซลาร์ หรือ TW SOLAR กล่าวว่า จากข้อมูลของฝ่ายวิเคราะห์ตลาดของทงเวย พบว่า ในปี 2567 ความต้องการแผงโซลาร์เซลล์ทั่วโลกจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะเพิ่มสูงถึง 647 กิกะวัตต์ หรือขยายตัว 31.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนานโยบายที่เป็นประโยชน์นั้น จะส่งผลให้ความต้องการของตลาดในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ประเทศไทยเอง คาดว่ากำลังการติดตั้งสะสมจนถึงปี 2580 จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.7 กิกะวัตต์ จากปี 2565 อยู่ที่ 4.7 กิกะวัตต์ ซึ่งเป็นการเติบโตมากที่สุดในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ อัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น เช่น การลดภาษี และมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่แข็งแกร่ง เช่น ระยะเวลาคืนทุนสั้นลงจาก 8 ปี เหลือเพียง 5 ปี
จากความต้องการที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในประเทศไทยดังกล่าว ทงเวย จึงได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ TNC-G12/G12R นอกจากแนวคิดที่จะต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์ ยังคำนึงถึงการลดต้นทุนการขนส่ง และต้นทุน BOS (โครงสร้างต้นทุนของอุปกรณ์ระบบโซลาร์เซลล์) จึงได้นำเสนอในรูปแบบแรงดันไฟฟ้าต่ำ โดยการออกแบบนี้ก็เพื่อเพิ่มความเหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับระบบแบบกระจายตัว ช่วยทำให้ติดตั้งได้มากขึ้น ลดต้นทุนของ EPC ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ทงเวย และ ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย ยังได้พันธมิตรสำคัญรายใหญ่ระดับโลก อย่าง Fox ESS (ฟ๊อกซ์ อีเอสเอส) ผู้นำระดับโลกในการพัฒนาอินเวอร์เตอร์ มาร่วมกันผนึกกำลังนำเสนอพลังงานสีเขียวให้กับตลาดประเทศไทยได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายไลเลน หลิว รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายขายทั่วโลก ฟ็อกซ์ อีเอสเอส หรือ FOX ESS กล่าวว่า การจับมือกับ ทงเวย และ ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Fox ESS ที่เข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวและพลังงานสะอาดในภาคพื้นเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว ที่มีความก้าวหน้าและโดดเด่นในด้านพลังงานสะอาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่มีนัยสำคัญ บริษัทฯ จึงอาศัยความได้เปรียบนี้วางแผนการทำงานร่วมกับพันธมิตรต้นน้ำและปลายน้ำ สนับสนุนการเติบโตและการเผยแพร่พลังงานสีเขียวที่ยั่งยืน สู่บ้านเรือนหลายพันหลังในประเทศไทย
ทั้งนี้ Fox ESS เป็นแบรนด์พลังงานสะอาดชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มีสาขาในกว่าสิบประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย การมีอยู่ทั่วโลกที่กว้างขวางทำให้ Fox ESS สามารถนำเสนอบริการพลังงานสีเขียวที่เป็นภาษาท้องถิ่นและครอบคลุมแก่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก ด้วยความทุ่มเทอย่างแน่วแน่และความเชี่ยวชาญที่กว้างขวาง Fox ESS ได้รับการยกย่องและการยอมรับจากทั่วโลก จนสามารถขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรระดับยูนิคอร์นในด้านพลังงานใหม่ระดับโลก
โดยภายในงาน Fox ESS ได้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์อินเวอร์เตอร์ Grid-tied PV อินเวอร์เตอร์ไฮบริด แบตเตอรี่สำรองพลังงาน และเครื่องชาร์จ EV ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ผลิตภัณฑ์หลักเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้กลุ่มลูกค้าเข้าใจถึงแนวคิดพลังงานสะอาด แต่ยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางพลังงานสีเขียวแบบครบวงจรที่ปลอดภัยเชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดไทย
ส่วนอีกหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่นำมาบุกตลาดในประเทศไทยคือกลุ่ม R Series ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มของ อินเวอร์เตอร์ Grid-tied PV สำหรับกลุ่ม C & I (Commercial and Industrial) หรือกลุ่มลูกค้าในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม มีขนาด 75-125 kW และมีมาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นผ่านระดับ IP66 นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงทางเทคโนโลยีเพื่อใช้ร่วมกันกับผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ชนิด n-type ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าสูง และผลลัพธ์ที่ได้คือมีประสิทธิภาพสูงถึง 98.6% ถือว่าสูงที่สุดในรุ่นที่มีในตลาด ซึ่งนับว่าเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ.