• Future Perfect
  • Articles
  • การศึกษาคือทั้งหมด พาชาติออกจากวิกฤติ

การศึกษาคือทั้งหมด พาชาติออกจากวิกฤติ

Sustainability

ความยั่งยืน5 มี.ค. 2567 06:01 น.

เพื่อลด “ความเหลื่อมล้ำ” ทางการศึกษาและสร้างให้เกิด “ความเท่าเทียม” กันในสังคม ผอ.กำพล วัชรพล จึงได้ก่อตั้ง “มูลนิธิไทยรัฐ” ขึ้นมาเพื่อที่จะส่งเสริมด้านการศึกษาและช่วยเหลือเกี่ยวกับการศึกษาแก่นักเรียนยากจนและเรียนดี

เจตนารมณ์แน่วแน่อยู่ที่การ... “สร้างเด็ก” “สร้างคน” “สร้างทรัพยากรมนุษย์” เพื่อให้เขาเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งคนดีและมีคุณภาพ สามารถช่วยพัฒนาประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส สะท้อนมุมมองในประเด็น “การศึกษาแบบกำพล วัชรพล พาชาติออกจากวิกฤติ” บอกว่า การศึกษาคือทั้งหมด (Education is the whole)...ถ้าการศึกษาดี ทั้งหมดก็ดี ถ้าการศึกษาไม่ดีทั้งหมดก็มีปัญหา...ปัญหาของทั้งหมดก็คือ “วิกฤติ” ทำอย่างไรๆก็ออกจากวิกฤติไม่ได้

เพราะ...ตีปัญหาการศึกษาไม่แตก

“การศึกษาแบบกำพล วัชรพล” คือคำตอบ การศึกษาแบบกำพลเป็นอย่างไร?

ศ.นพ.ประเวศ ย้ำว่า กำพลเป็นคนจนมีการศึกษาน้อย จบ ป.4 ก็ต้องทำงานเลี้ยงชีวิต ทำงานสารพัดอย่าง เป็นคนเก็บเงินในเรือเมล์ถีบสามล้อ ชกมวย ส่งหนังสือพิมพ์เรื่อยๆขึ้นมาจนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งมียอดขายมากกว่าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับรวมกัน

ทำงานเพื่อสังคมจนได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกโดยองค์การยูเนสโก...ความสำเร็จของกำพลอยู่ที่ “ทำงานเป็น คิดเป็น จัดการเป็น”...ในขณะที่ปัญหาใหญ่ของไทยทั้งชาติคือ ทำงานไม่เป็น คิดไม่เป็น จัดการไม่เป็น เพราะ การศึกษาแบบ “ท่อง” ไม่ใช่การศึกษาแบบ “ทำ”

กำพลที่ว่ามีการศึกษาน้อยนั้น คือการศึกษาแบบท่องน้อย แต่มีการเรียนรู้มาจากการลงมือทำมาก...ระบบการศึกษาไทยที่ดำเนินมา 100 กว่าปี เน้นที่การ “ท่องวิชา” มากกว่าการลงมือทำ สร้างคนไทยที่ทำไม่เป็น คิดไม่เป็น จัดการไม่เป็นขึ้นมาเต็มประเทศ เป็นเหตุให้ชาติวิกฤติ

การท่องจำเป็นระดับปัญญาที่ต่ำที่สุด

การตัดสินใจที่ถูกต้องคือ ระดับปัญญาที่สูงที่สุด

ผู้รู้จัดระดับปัญญาไว้เป็น 6 ขั้นด้วยกัน โดยใช้ตัวย่อว่า “จำ” “ใจ” “ใช้” “วิ” “สัง” “ประ”...อธิบายขยายความได้ว่า...จำ เท่ากับ ท่องจำอย่างเดียวโดยไม่เข้าใจ, ใจ เท่ากับเข้าใจ สูงขึ้นมาแต่ก็ยังทำไม่เป็น, ใช้ เท่ากับการประยุกต์ใช้หรือลงมือทำ, วิ เท่ากับวิเคราะห์สิ่งที่ทำ ทำให้เข้าใจละเอียดขึ้น

สัง เท่ากับสังเคราะห์ให้เห็นภาพรวมเพื่อจัดการได้, ประ เท่ากับประเมินค่าจากทั้งหมดเพื่อการตัดสินใจและจัดการ...“การตัดสินใจเป็นปัญญาสูงสุด เพราะถ้าตัดสินใจถูกก็จะเจริญหรือ วัฒนะ ถ้าตัดสินใจผิดก็จะเสื่อมหรือล้มละลาย หรือ “หายนะ” “การศึกษาไทย”...อยู่ที่ระดับปัญญาต่ำสุด คือ “ท่องจำ”

“ขณะที่กำพลอยู่ที่ระดับสูงสุดคือ การตัดสินใจเก่งและจัดการเก่ง ที่เก่งเพราะเรียนรู้จากการลงมือทำ การทำทำให้ต้องคิด ตัดสินใจ และจัดการ ถ้าทำไม่เป็น คิดไม่เป็น จัดการไม่เป็น ก็เจ๊งลูกเดียวไม่สามารถสร้างอาณาจักรไทยรัฐได้” ศ.นพ.ประเวศ ว่า

“ระบบการศึกษาปัจจุบันเป็นระบบที่แยกส่วน แยกส่วนจากชีวิตไปเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ทอดทิ้งชีวิตไปเลย...การศึกษาที่ดีต้องเอาชีวิตเป็นตัวตั้ง หรือบูรณาการกับชีวิต ชีวิตคือการศึกษา การศึกษาคือชีวิต ชีวิตคือธรรมชาติ ธรรมชาติยิ่งใหญ่ที่สุด มีเหตุมีผลที่สุด และฉลาดที่สุด มนุษย์ควรเรียนรู้จากธรรมชาติ”

ชีวิตต้องเรียนรู้ให้ทำเป็น คิดเป็น จัดการเป็น อยู่ร่วมกันเป็น และพัฒนาจิตใจเป็น

การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชีวิตต้องมีการทำงาน ไม่มีการว่างงาน การว่างงานเกิดจากระบบเศรษฐกิจแบบแยกส่วนจากชีวิต การเรียนรู้จาก “การทำงาน”...ทำให้ชีวิตและสังคมเจริญ ได้ดังนี้

ประการที่หนึ่ง...การทำงานสามารถเลือกงานที่ตัวชอบ การได้ทำสิ่งที่ชอบทำให้มีความสุข การถูกบังคับให้ท่องวิชาที่ไม่ชอบทำให้เกิดความทุกข์ การเรียนรู้ที่ดีต้องมีความสุข การทำอะไรที่มีความทุกข์จะทำให้เกลียดสิ่งนั้น คนไทยจึงเป็นคนที่เกลียดการศึกษา

ประการที่สอง...เมื่อได้ทำสิ่งที่ชอบจึงทำได้ดี จึงเป็นคนเก่งในสิ่งนั้นๆ คนไทยทุกคนจะกลายเป็นคนเก่งในทางต่างๆกัน ทำให้มีศักดิ์ศรีเสมอกัน

ประการที่สาม...เมื่อได้ทำสิ่งที่ชอบและมีความสุขทำให้ทำได้นานเพราะใจจดจ่อ เป็นการฝึกสมาธิในงานและความอดทน ปัจจุบันคนไทยไม่ทนงาน เซ็งง่าย

ประการที่สี่...การได้ทำสิ่งที่ชอบทำให้ทำอย่างประณีต กลายเป็นศิลปะหรือความงามที่เข้ามาพัฒนาจิตใจ ประการที่ห้า...มีรายได้จากการทำงาน ไม่ยากจน ยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ถ้ามีการเรียนรู้จากการทำงานทั่วประเทศก็หายจนถ้วนหน้า ลดความเหลื่อมล้ำ เศรษฐกิจเติบโตและมั่นคง

ประการที่หก...การทำงานทำให้ต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่นและต่อองค์กร การเรียนแบบท่องจำ ลอยตัว หยิบโหย่ง ขาดความรับผิดชอบ ประการที่เจ็ด...มีแรงจูงใจทางบวก ยิ่งขยันยิ่งมีรายได้มากขึ้น ยิ่งรับผิดชอบยิ่งมีรายได้มากขึ้น ยิ่งหาความรู้เพิ่มเติมทำให้ทำงานได้ดีขึ้นยิ่งมีรายได้มากขึ้น

ทำให้...เป็นคนเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต

ประการที่แปด...การทำงานทำให้จัดการเป็น งานทุกชนิดต้องจัดการไม่ว่าจะเลี้ยงไก่ ขายก๋วยเตี๋ยว หรือขายของชำ การจัดการเป็น อิทธิปัญญา (อิทธิ = สำเร็จ) จนมีคำกล่าวว่า “การจัดการทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้” เช่น ทำให้เด็กที่ยากจนมาเป็นเจ้าของอาณาจักรไทยรัฐ

การศึกษาแบบท่องจำทำให้ภูมิปัญญาในการจัดการหายไปจากสังคมไทยเกือบจะโดยสิ้นเชิง “ทำให้สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้เป็นไปได้” คือ ประเทศไทยยากจน

ประการที่เก้า...ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ ในงานที่ใหญ่และยากเกินกำลังของคนคนเดียว การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติเป็นการเรียนรู้ที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ (Transformative learning) ทำให้เกิดความเสมอภาค ภราดรภาพ สามัคคีธรรม เกิดความรักกันมากและมีความสุขอย่างยิ่ง

ข้างต้นนี้คือ คุณธรรม 9 ประการของการทำงาน จะทำให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยคนเก่งคนดี ชาติหายวิกฤติ “กลุ่มไทยรัฐ”...เป็นกลุ่มที่มีพลังในการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ Future Perfect ก็คือเปลี่ยนแปลงการศึกษาจากแบบ “ท่อง” มาเป็นแบบ “ทำ” หรือ...เรียนรู้แบบกำพล

นั่นก็คือ...เรียนรู้จากการทำงาน โดยคนทั้งหมดในอาณาจักรไทยรัฐศึกษาให้เข้าใจและเห็นคุณค่าการศึกษาแบบกำพลคือ เรียนรู้จากการทำงาน...เผยแพร่คุณค่าการเรียนรู้จากการทำงานอย่างกว้างขวาง...ในทางปฏิบัติเริ่มจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 แห่ง และขยายตัวออกไปเรื่อยๆ

ต่อเนื่องไปถึงการขับเคลื่อนนโยบายการเรียนรู้จากการทำงาน แก้วิกฤติชาติทุกระดับ สนับสนุนการปฏิบัติด้วยระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ฝากทิ้งท้ายว่า ด้วยวิถีทั้งหมดนี้ จะสามารถพลิกโฉม...“การศึกษาไทย” พลิกโฉม...“ประเทศไทย” สร้างอนาคตที่สมบูรณ์ของคนทั้งชาติร่วมกัน “Future Perfect”...ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ.

คลิกอ่านคอลัมน์ "สกู๊ปหน้า 1" เพิ่มเติม