• Future Perfect
  • Articles
  • ปลัด มท. จับมือ UNDP อบรมหลักสูตร เจาะลึก SDGs เน้นความร่วมมือ สู่ความยั่งยืน

ปลัด มท. จับมือ UNDP อบรมหลักสูตร เจาะลึก SDGs เน้นความร่วมมือ สู่ความยั่งยืน

Sustainability

ความยั่งยืน19 ก.ย. 2566 16:44 น.

ปลัดมหาดไทยจับมือผู้แทน UNDP ฝึกอบรมหลักสูตร "เจาะลึก SDGs (Deep Drive SDG)" ย้ำมุ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญ ของการเป็นพลเมืองโลก ทำให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน

วันที่ 19 ก.ย. 66 ที่กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเจาะลึก SDG (Deep Drive SDG) ร่วมกับนายเรอโนด์ เมแยร์ (Mr.Renaud Meyer) ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme : UNDP) เพื่อทำความเข้าใจประเด็นหลักการ และวิธีนำไปใช้ของ SDGs แลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันความคิดกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดี ที่ได้มีส่วนร่วมในการทำ Change for Good ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยและสังคมโลก โดยเฉพาะการได้เป็นส่วนหนึ่งในการปลุกเร้า "Passion" ของคนมหาดไทย ที่ได้ขับเคลื่อนนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17 Goals) พร้อมกันทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร

ซึ่งการทำงานร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme : UNDP) มีเป้าหมายในการร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในระดับพื้นที่ เพื่อจะได้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสที่จะฉุกคิดและช่วยกันในการที่จะทำให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนได้มั่นใจว่า เราจะทำให้ทุกคนบนโลกใบนี้ได้ใช้ชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม 

รูปแบบของการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ในการนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) คือ เราจะเป็นหุ้นส่วน ที่จะไปช่วยสนับสนุนทำให้เกิดการรวมกลุ่ม รวมพลัง และลงมือทำด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การที่ประชาชนทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการลงมือทำด้วยกัน ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ กระตุ้นปลุกเร้า เสริมสร้างสัมพันธ์เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน



กระทรวงมหาดไทยนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (UN) จึงได้ประกาศเจตนารมณ์ ร่วมกันลงนามบันทึกสัญญา (MOU) ภายใต้แนวคิด 76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน โลกนี้เพื่อเรา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นส่วนทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย อันประกอบด้วย ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า คำว่า "บูรณาการอย่างยั่งยืน" คือ การบูรณาการ "คน" โดยการสร้างทีมให้เกิดการรวมกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง พร้อมกับการสร้างทีมจิตอาสาที่เป็นผู้ช่วยร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยการนำเอางานทุกงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย รวมงานทุกงานของทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึง UN เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อาทิ การสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" และ "ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน" การสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย การสร้างความมั่นคงในเครื่องนุ่งห่ม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการคัดแยกขยะครัวเรือน จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ขับเคลื่อนให้ทุกครัวเรือนจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซเสียสู่ชั้นบรรยากาศ

"ขอขอบคุณคุณกีต้าร์ ซับบระวาล (Mr.Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ที่ทำให้ทุกจังหวัดภาคภูมิใจในการนำเสนอ ในเวที SDGs Summit 2023 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศ โดยกล่าวชื่นชมกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องการคัดแยกขยะในประเทศไทย 14 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ได้ถึง 550,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และการรับรองการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ใน 4 จังหวัด นำร่อง เป็นเงินจำนวน 21,000 บาท ที่ถูกซื้อโดยธนาคารเอกชนของประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นและก้าวสำคัญที่ UN และกระทรวงมหาดไทยจะได้ดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และขยายผลไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก" ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้าน Mr.Renaud Meyer ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) กล่าวว่า นับเป็นความน่ายินดีที่ UNDP และกระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันมาตลอด ซึ่งโครงการอบรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรม ผลการดำเนินงานของประเทศต่างๆ ซึ่งในวันนี้เราได้เรียนเชิญวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อมาพูดคุยและสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งความสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประการที่ 1) จะเป็นกรอบของการทำงานของโลกที่พูดถึงหลักการความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การมีอากาศหายใจ ซึ่งเป็นการนำพาความต้องการของทุกคน เพื่อมาพูดคุยหารือทำความเข้าใจในวาระตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประเด็นที่ 2) เนื่องจากความซับซ้อนและความเร่งด่วนของปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีความหลากหลายในระดับพื้นที่ เราจึงต้องมีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความซับซ้อน โดยกลไกของกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นการอบรมในวันนี้ก็จะช่วยให้ทุกท่านเข้าใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงระบบโดยใช้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 เป้าหมายเป็นเครื่องมือมากยิ่งขึ้น

ประเด็นที่ 3) จากการทำงานของทาง UNDP ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้เห็นการดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการจัดการขยะ การรักษาความสะอาด การจัดการน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง หรือการจัดการฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมารายงานเป็นข้อมูลในการประเมินวัดผล รวมไปถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ และผลการดำเนินการ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างจังหวัดและองค์กรได้ และ ประการที่ 4) สิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ การทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้แต่ละภาคส่วนดำเนินการผ่านการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยตนเองและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนร่วมกัน โดยมี SDG 17 เป้าหมาย เป็นกรอบในการดำเนินการ เพื่อนำไปประยุกต์ปรับใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงและพัฒนาให้จังหวัดอย่างยั่งยืน.