• Future Perfect
  • Articles
  • Bridgestone กับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน นวัตกรรมยางหล่อดอก และคำตอบ “ทำไมยางมีแค่สีดำ?”

Bridgestone กับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน นวัตกรรมยางหล่อดอก และคำตอบ “ทำไมยางมีแค่สีดำ?”

Sustainability

ความยั่งยืน28 ก.ค. 2566 06:00 น.

“บริดจสโตนในฐานะผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับโลก เราไม่สามารถบริโภคพลังงาน และทรัพยากรไปได้เรื่อยๆ เราจึงดำเนินนโยบายด้านความยั่งยืน เพื่อส่งมอบทรัพยากรให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต” 


หนึ่งในประโยคจากบทสัมภาษณ์คุณอรรถพล แพรพริ้วงาม ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ส่วนงานความยั่งยืน บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ที่เราได้สัมผัสอุดมการณ์ของแบรนด์ยางรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Bridgestone แม้จะเป็นยักษ์ในวงการอุตสาหกรรมยางรถยนต์ แต่ก็เป็นยักษ์ใจดีที่ห่วงใยคนรุ่นต่อไป หวังสร้างความยั่งยืนไม่ใช่แค่ธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน 


รู้จัก Bridgestone

Thairath Talk : ประวัติของ Bridgestone แบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลกที่มีอายุยาวนานกว่า 90 ปี

คุณอรรถพล : ชื่อ Bridgestone เป็นภาษาอังกฤษ แต่เราเป็นบริษัทญี่ปุ่น ก่อตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น โดยคุณโชจิโร อิชิบาชิ ซึ่งเมื่อแปลนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษตรงตัวก็คือ “stone bridge” อันเป็นที่มาของ “Bridgestone” ทุกวันนี้ เริ่มแรกครอบครัวของอิชิบาชิ ทำธุรกิจตัดเย็บผ้า และต่อยอดไปทำถุงเท้าทาบิ และปรับปรุงความทนทานด้วยการเพิ่มวัสดุเนื้อยางเข้าไปบนเนื้อผ้า เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความทนทาน ประกอบกับในเวลานั้น อิชิบาชิได้นำเข้ารถยนต์มาในญี่ปุ่น ทำให้เริ่มต้นผูกพันกับรถยนต์ และเข้าสู่วงการยานยนต์ด้วยการก่อตั้งโรงงานผลิตยางแห่งแรกของญี่ปุ่น

หลังจากนั้น อิชิบาชิ มุ่งมั่นขยายธุรกิจยางรถยนต์ Bridgestone ส่งออกไปทั่วโลก จนปัจจุบัน Bridgestone ได้ขยายการดำเนินธุรกิจใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ทวีปอเมริกาครอบคลุมอเมริกาเหนือและใต้ ยุโรปรวมถึงแอฟริกาและอินเดีย เอเชีย แปซิฟิกและจีน รวมถึงญี่ปุ่น สำหรับในไทย บริดจสโตนมี 13 บริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถบรรทุก ยางสำหรับเครื่องบิน การจัดจำหน่ายและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับยางรถยนต์

Thairath Talk : แล้วทำไมยางรถยนต์ถึงมีสีดำแค่สีเดียว เราสามารถ Custom เป็นสีตามใจเราได้หรือไม่

คุณอรรถพล : ยางรถยนต์ใส่ผงเขม่าดำ หรือ Carbon Black เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของยาง ในกระบวนการผลิต เราไม่สามารถนำยางธรรมชาติมาใช้ได้เลยเพราะยังไม่เหมาะสมในการผลิตยางรถยนต์ เคยมีเหมือนกันครับ ที่ใช้สารซิลิกา เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของยางและเป็นสารที่มีสีขาว ซึ่งสามารถใช้ได้และสามารถเติมแต่งสีได้ด้วย แต่กระบวนการผลิตยางต้องแยกกันระหว่างสีขาวกับสีดำ ปนเปื้อนกันไม่ได้เพราะสีขาวจะกลายเป็นสีดำ ดังนั้นไลน์การผลิตจึงต้องแยกกัน การลงทุนก็ต้องเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ว่าความต้องการของท้องตลาดไม่ได้มาก เนื่องจากเวลาใช้งานยางก็ต้องเลอะสิ่งสกปรก การใช้งานจริงจึงไม่สะดวก ปัจจุบันเลยไม่ค่อยเห็น เพราะการลงทุนไม่คุ้มค่า

Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)

“ในปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติมีจำกัด Bridgestone จึงอยากส่งต่อทรัพยากรให้คนรุ่นต่อไปในอนาคตด้วย ดังนั้นเราจึงเล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ในฐานะผู้ผลิต เพราะเราไม่สามารถบริโภคพลังงาน และทรัพยากรไปได้เรื่อยๆ จากเหตุผลทั้งหมดนี้ Bridgestone จึงมีนโยบายและกิจกรรมด้านความยั่งยืน” คุณอรรถพล กล่าว


Thairath Talk : แนวคิดความยั่งยืน เกิดขึ้นมากี่ปีแล้วครับ

คุณอรรถพล : ในปี ค.ศ. 2022 ทาง Bridgestone มีนโยบาย และกำหนดตัวเลขชัดเจน โดยมีกิจกรรมผ่าน Bridgestone E8 Commitment หรือ พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน ประกอบด้วยคุณค่าทั้ง 8 ด้าน ซึ่งมาจากพันธกิจและดีเอ็นเอของ Bridgestone เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “E” สะท้อนความเชื่อมโยงกับทุกแง่มุมของธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน ประกอบด้วย 

 o ด้าน Energy (พลังงาน) - สังคมแห่งการเดินทาง ต้องเป็นกลางทางคาร์บอน 

 o ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม) - ตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อสิ่งแวดล้อม 

 o ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ) - ดีขึ้นได้อีก เพิ่มผลผลิตขึ้นได้อีก 

 o ด้าน Extension (การเติบโต) - เพราะโลกไม่เคยหยุด เราต้องไปให้สุดด้วยนวัตกรรม 

 o ด้าน Economy (เศรษฐกิจ) - ดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปได้สุด 

 o ด้าน Emotion (ความรู้สึก) - ปลุกพลังบันดาลใจ เติมเชื้อไฟแห่งความตื่นเต้นสู่โลกแห่งการเดินทาง 

 o ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) - ทุกการเดินทาง จะสร้างความสุขได้มากกว่าเดิม 

 o ด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) - ผลักดันสังคมเพื่อความเท่าเทียม

Thairath Talk : คำว่าความยั่งยืน และ Bridgestone E8 Commitment ที่ว่ามา ในมุมมองของคนฟังเกิดคำถามแน่นอน มันคือนามธรรมหรือเปล่า ในแง่รูปธรรม เราปฏิบัติให้คนทั่วไปรู้สึกได้อย่างไรว่า Bridgestone กำลังดำเนินงานด้านนี้อยู่จริงๆ ความยั่งยืนที่พูดมามันจับต้องได้จริง 

คุณอรรถพล : ผมยกตัวอย่าง 1 ใน 8 ข้อจาก Bridgestone E8 Commitment คือ Energy หรือพลังงาน เมื่อไรที่เราลดการใช้พลังงาน เราจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าโลกเราร้อนขึ้น สิ่งมีชีวิตบนโลกก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นกิจกรรมที่เราทำเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สะท้อนด้าน Energy เนื่องจากโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราก็มีหน้าที่ทำให้โลกร้อนช้าลง ด้วยการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมของเรา

กลยุทธ์ความยั่งยืน

Thairath Talk : ช่วยเล่ากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ Bridgestone ให้ฟังหน่อยครับ

คุณอรรถพล : การดำเนินงานแรกในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2023 ทาง Bridgestone ได้ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ด้วยการซื้อใบยืนยันสิทธิพลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Energy Certificates (RECs) สำหรับบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด โรงงานหนองแค โดยได้สิทธิ์การใช้พลังงานหมุนเวียน คิดเป็น 55.6% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่โรงงานหนองแค ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 98,505 ตัน ตลอดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023-2025 

และสำหรับบริษัท บริดจสโตน ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้สิทธิ์การใช้พลังงานหมุนเวียนคิดเป็น 88% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่บริษัท ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 208,404 ตัน ตลอดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023-2025 

ทั้งนี้เราตั้งเป้าจะใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิตถึง 100% 

การดำเนินงานที่สอง คือ การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านผลิตภัณฑ์ นั่นคือ ยางหล่อดอก (Bridgestone Premium Retread Tire) ด้วยการนำโครงยางเก่าของรถบัสหรือรถบรรทุก โดยมีการนำหน้ายางเก่าออก เพราะเราใช้เทคโนโลยีผลิตตัวโครงยางได้แข็งแรงทนทาน ก็นำโครงยางนี้มาติดดอกยางใหม่ เมื่อติดดอกยางใหม่ก็สามารถนำยางกลับไปใช้ได้เสมือนยางใหม่ โดยเรามีการตรวจสอบตัวโครงยางก่อนทุกครั้ง เท่าที่เราบันทึกไว้ ยางหล่อดอกสามารถนำกลับมาใช้ได้สูงสุดถึง 3 ครั้ง โครงเดิมนำกลับมาใช้ใหม่ แปลว่าเราใช้ทรัพยากรน้อยลง สอดรับกับเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน

และยังมีเทคโนโลยี ENLITEN ซึ่งเราโฟกัสที่รถยนต์ไฟฟ้า โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ความต้านทานการหมุนของยางน้อยลง ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานน้อยลง ระยะทางการวิ่งต่อหนึ่งการชาร์จ เราจะเห็นระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้น เมื่อวิ่งได้ไกลขึ้นเท่ากับเราลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ช่วยโลกใบนี้ด้วย ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ของเรา เร็วๆ นี้ประเทศไทย เราจะได้ใช้ยางของ Bridgestone ที่เป็นเทคโนโลยี ENLITEN  

Thairath Talk : แนวคิดความยั่งยืน ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นไหม 

คุณอรรถพล : Bridgestone เรามองเรื่องการส่งมอบโลกใบนี้ให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต ถามว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นไหม แน่นอนว่ามีต้นทุนในการวิจัยและพัฒนา สุดท้ายแล้ว Bridgestone ได้สะท้อนผ่านคุณค่าและประสิทธิภาพของยางรถยนต์ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่เต็มประสิทธิภาพ และรักษ์โลกใบนี้ สามารถส่งต่อทรัพยากรให้คนรุ่นต่อไปในอนาคตได้ อีกทั้งในด้านความคุ้มค่า ผมว่าตัวประสิทธิภาพและราคายาง มองในภาพรวม ผมเชื่อว่า Bridgestone เป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีกับแนวคิดความยั่งยืนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

Thairath Talk : แล้วส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างไร

คุณอรรถพล : ผมคิดว่า Bridgestone ไม่ได้ส่งต่อต้นทุนให้กับผู้บริโภค มากเกินกว่าสิ่งที่สะท้อนถึงคุณค่า ดังนั้นผู้บริโภคจะได้รับคุณค่าของยาง Bridgestone เหมือนเดิมครบถ้วน แม้ว่าเราจะดำเนินตามแนวคิดความยั่งยืน แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเข้าไป คือ ผู้บริโภคจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยรักษาโลกใบนี้มากกว่าเดิม