- สัญลักษณ์ "ฉลากสิ่งแวดล้อม" ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท
- ฉลากสิ่งแวดล้อม ถือเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ ที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- ศึกษาสัญลักษณ์ ฉลากสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ที่นิยมใช้กันทั่วไป และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ในปัจจุบันผู้คนทั่วโลกได้ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ "สิ่งแวดล้อม" มากยิ่งขึ้น หลังวิกฤติมลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นถี่และทวีความรุนแรงไปทั่วโลก จนทำให้หลายหน่วยงานไม่ว่าจะภาครัฐหรือเอกชน ต่างหันมาปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือสัญลักษณ์ "ฉลากสิ่งแวดล้อม" ถือเป็นกลไกการสื่อสารและบ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภครับทราบ เป็นฉลากที่มอบให้แก่ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้บริโภคทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้นเน้นคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม และสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภคทรัพยากรของตน
โดยปัจจุบันสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงฉลากสิ่งแวดล้อม ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทหลายรูปแบบ ทั้งอิงกับระบบมาตรฐาน ISO และมาตรฐานของกลุ่มประเทศต่างๆ ซึ่งสัญลักษณ์เบื้องต้นที่นิยมใช้กันทั่วไป และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มักพบเห็นกันอย่างแพร่หลายบริเวณด้านท้ายของขวดนํ้าหรือภาชนะบรรจุพลาสติกประเภทต่างๆ
ฉลากเขียว (Green Label)
เป็นฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ซึ่งเป็นฉลากประเภท 1 ซึ่งมีองค์กรกลางเป็นผู้ให้การรับรอง การติดฉลากบนสินค้าเพื่อต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภครู้ว่า สินค้าที่ได้รับการรับรองด้วยฉลากนี้เป็นสินค้า ที่มีองค์ประกอบ กระบวนการผลิต การใช้ตลอดจนถึงการทิ้งทำลายที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ไม่ได้รับการรับรอง
สินค้าฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5
คือฉลากที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 โดยที่เบอร์ 5 หมายถึงประหยัดไฟมากที่สุด
PET หรือ PETE
พลาสติกประเภท Polyethylene Teraphalate Ethylene หรือเรามักเรียกติดปากกันว่าขวดเพทสามารถนำมารีไซเคิล ขวดนํ้าพลาสติกชนิดขวดอ่อนหรือขวดซอฟต์ดริงก์ทั้งหลาย
HDPE
พลาสติก High DEnsity Polyethylene พลาสติกชนิดนี้มีความหนาแน่นสูง ทำให้แข็งแรง ทนกรดและด่าง ทั้งยังป้องกันการแพร่ผ่านของความชื้นได้ดี สามารถนำมาใช้ในการผลิตขวดนม, ขวดเครื่องสำอาง, ถุงพลาสติก, ถังขยะ, ถังบรรจุสารเคมี เช่น ถังน้ำมันรถได้
PVC
พลาสติกประเภท Polyvinyl Chloride เป็นพลาสติกใสที่มีความแข็งแรงมาก ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอสมควร แต่ป้องกันไขมันได้ดี สามารถนำมาใช้ในการผลิตท่อน้ำประปา หนังเทียม ฉนวนหุ้มสายไฟ ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอุปกรณ์การแพทย์ได้
LDPE
พลาสติกประเภท Low Density Polythylene เป็นพลาสติกโปร่งแสง ที่มีปริมาตรสูง แต่ความหนาแน่นต่ำ นำไปใช้ในการผลิตถุงบรรจุอาหารแช่แข็ง, แผ่นฟิล์ม, ถุงใส่ของ และสายหุ้มทองแดงได้
PP
พลาสติกประเภท Polypropylene ที่มีความเหนียว อากาศสามารถผ่านได้เล็กน้อย แต่น้ำไม่สามารถซึมผ่านได้ นอกจากจะใช้เก็บอาหารสด อาหารแปรรูป และอาหารแช่แข็งได้ดี ยังทนต่อสารเคมีและอาหารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนได้เล็กน้อยแล้ว สามารถทนความร้อนได้ถึง 110 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงใช้ใส่อาหารเพื่ออุ่นร้อนในไมโครเวฟได้
PS
พลาสติกประเภท Polystrene เป็นพลาสติกที่มีความโปร่งใส เปราะบาง แต่ทนต่อกรดและด่าง ผลิตเป็นรูปต่างๆ ได้ง่าย ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอสมควร นำมาผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาชนะ เช่น ถ้วย, จาน และกล่องโฟมได้
OTHER
เป็นพลาสติกชนิดอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการผสมกันของพลาสติกหลากหลายประเภท ที่ไม่ใช่พลาสติก 6 ชนิดก่อนหน้าที่กล่าวมา เช่น โพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate : PC) เป็นพลาสติกโปร่งใส มีความแข็งแรง ทนต่อความร้อน กรด และแรงกระแทกได้ดี นำมาใช้ในการผลิตปากกา, ขวดนมเด็ก, หมวกนิรภัย, ไฟจราจร, ป้ายโฆษณา เป็นต้น
RECYCLED
หมายถึงบรรจุภัณฑ์ ที่แสดงสัญลักษณ์นี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยสัญลักษณ์นี้ถูกริเริ่มโดย USA และไม่มีข้อจำกัดในด้านลิขสิทธิ์ ทุกคนสามรถนำไปใช้งานได้ มักพบในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทั้ง กระดาษ พลาสติก โลหะ เป็นต้น
TRASH
เป็นสัญลักษณ์ที่กระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภค กำจัดขยะให้ถูกต้องเหมาะสม ไม่ปล่อยปละละเลยต่อบรรจุภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม การใช้พลาสติกกันอย่างรู้คุณค่า และทิ้งขยะพลาสติกให้ถูกที่ เพื่อนำขยะพลาสติกที่ใช้แล้วเหล่านี้กลับไปรีไซเคิลใหม่เพื่อวนกลับมาใช้ได้ซ้ำๆ สามารถสร้างประโยชน์ได้ใหม่ มากกว่าทำลายโลกของเราอีกด้วย.