ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 เม.ย.59 ปิดที่ 1,356.69 จุด ลดลง 16.90 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 51,216.77 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ
2,844.13 ล้านบาท
ต่างชาติขายทำกำไรระยะสั้นๆ ทั้งหุ้นแบงก์และสื่อสารที่มีประเด็นกดดัน หลังนักวิเคราะห์อยู่ระหว่างปรับประมาณการงบไตรมาส 1 ของหุ้นแบงก์ลง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ส่งผลกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรแบงก์โดยรวม
ขณะที่หุ้นสื่อสารนำโดย ADVANC ร่วงหนักหลังยื่นข้อเสนอขอรับช่วงต่อใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ต่อจาก JAS ที่ราคา 7.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจทำให้นักวิเคราะห์ต้องปรับประมาณการผลประกอบการ ADVANC ลง
บล.เออีซี ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนเมษายนว่า มีโอกาสพุ่งแตะจุดสูงสุดในครึ่งปีแรกที่ระดับ 1,440 จุด โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ โดยปริมาณซื้อขายสะสมของต่างชาติปรับเพิ่มสู่ระดับ 3.3 หมื่นล้านบาท นับแต่วันที่ 15 ก.พ.59 เป็นระดับซื้อสะสมที่ทำจุดสูงสุดใหม่หลังปรับพอร์ต จากการคำนวณ Foreign Cost เฉลี่ยอยู่ที่ 1,370 จุด ซึ่งคาดว่า SET จะต้องปรับขึ้นสู่ 1,440 จุด เพื่อให้ต่างชาติได้ Returns ที่ 5%
แนะกลยุทธ์ลงทุน เลือกหุ้น 2 กลุ่มโรงกลั่น และสถานี NGV ได้แก่ IRPC-SPRC-SCN และบริษัทที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย Tax incentive ภาครัฐฯ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ชอบ AAV-BA-CENTEL-BDMS-BCH-LPH รวมทั้งกลุ่มค้าปลีกและอสังหาฯ หุ้นเด่นเลือก CPN-PLAT-SF-ROBINS
โฟกัสหุ้นแบงก์ที่ถูกเทขายหลังแบงก์ใหญ่พากันลดดอกเบี้ยเงินกู้ โฟกัสที่หุ้น BB หลายสำนักวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้ “ซื้อ” โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมเป็น 201 บาท ตามด้วย บล.โกลเบล็กให้ราคาเหมาะสม 194 บาท ขณะที่ บล.ฟิลลิป แนะ “ทยอยซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 184 บาท
ด้าน บล.เคจีไอ แนะ “ถือ” ให้เป้าหมายที่ 175 บาท เช่นเดียวกับทรีนีตี้ที่ให้เป้า 173 บาท และทิสโก้ แนะ “ถือ” ให้มูลค่าที่เหมาะสม 165 บาท บล.กรุงศรี ให้ราคาเป้าหมาย 155 บาท ขณะที่ บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำ “ขาย” ให้เป้า 156 บาท!!
อินเด็กซ์ 51