ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค.58 ปิดที่ 1,346.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 22,575.35 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 169 บาท บวก 1 บาท, PTT ปิด 246 บาท บวก 5 บาท, ADVANC ปิด 226 บาท ลบ 2 บาท, CPALL ปิด 49 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และ JWD ปิด 13 บาท ลบ 0.40 บาท
ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเงียบเหงามูลค่าการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนเลือกชะลอการลงทุนอยู่นอกตลาดมากกว่า ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวขึ้น-ลง ในกรอบแคบๆ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชี้นักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระทบการลงทุน ขณะที่มีปัจจัยบวกในสัปดาห์หน้าคือเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอมาตรการต่อ ครม.ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เบื้องต้นอาจดึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาเป็นแกนนำในการปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ส่วนการลดค่าโอน-ค่าจดจำนอง น่าจะพิจารณาในลำดับถัดไป ซึ่งหากภาครัฐพิจารณาลดการเก็บค่าโอน และค่าจดจำนอง น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ มากกว่า
ส่วนปัจจัยต่างประเทศต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้
ประเมินทิศทางตลาดสัปดาห์หน้า คาดบรรยากาศการซื้อขายไม่สดใสเพราะยังต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากภายในและนอกประเทศ แต่น่าจะมีการเข้าเก็งกำไรหุ้นรายตัวในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รับมาตรการ ขณะที่ มองกระแสเงินทุนต่างชาติ อาจจะยังมีขายหุ้นออกมาเรื่อยๆ ตามแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง แต่คงไม่มากแล้วเพราะใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดของต่างชาติ ขณะที่น่าจะมีแรงซื้อของกองทุนรวม LTF และ RMF เข้ามาในช่วงปลายปี
แนะกลยุทธ์การลงทุน เลือกเก็งกำไรหุ้นรายกลุ่มรายตัวที่มีประเด็นหรือข่าวดีเข้ามากระทบ เช่น กลุ่มอสังหาฯ ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 1,330 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,360 จุด
ขณะที่ บล.เอเซียพลัส มองหุ้นไทยยังขาดแรงหนุนที่ชัดเจน ขณะที่ ตลาดยังรอผลการดำเนินงานของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ และที่จะประกาศเพิ่มเติมคือ การลดภาษีการโอนและจดจำนอง ซึ่งช่วยหนุนกำลังซื้อ นับว่าดีต่อ Developers ยังเลือก SPALI เป็น Top Pick ให้มูลค่าพื้นฐานที่ 27.57 บาท!!
อินเด็กซ์ 51