ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 มิ.ย.58 ปิดที่ 1,514.81 จุด บวก 10.77 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 50,489.01 ล้านบาท
หุ้นไทยปรับขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค หลังได้ข่าวบวกกรณีปัญหาหนี้กรีซ ที่เยอรมนีพร้อมเจรจารับข้อเสนอการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มอ่อนค่าลง หนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แถมมีแรงซื้อหุ้นแบงก์คืนหลัง กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 1.5%
บล.โนมูระ พัฒนสินมองตลาดระยะสั้นแกว่งตัวในแดนบวก กลยุทธ์ลงทุนแนะซื้อหุ้นรายตัว KBANK-SCB-PTT-WORK-ROBINS-CBG-LPN ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,511-1,507 จุด และแนวต้าน 1,519-1,526 จุด
ด้าน บล.กสิกรไทยมองตลาดปลายไตรมาส 3 ดัชนีขึ้นแตะ 1,600 จุดได้อีกครั้ง แต่ระยะสั้นมองแกว่งตัว 1,480-1,520 จุด แนะหุ้นน่าลงทุนช่วงนี้ กลุ่มธนาคาร พลังงาน และรับเหมาก่อสร้าง เช่น PTTGC-TOP-CK และ UNIQ รวมทั้งกลุ่มท่องเที่ยวชอบ CENTEL แต่เตือนว่าหุ้นไทยช่วง 1-2 เดือนนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในและนอกประเทศ ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ที่จะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า กระตุ้นให้เงินทุนไหลออก โดยเฉพาะเงินร้อนอาจโยกเงินลงทุนออกไปก่อน แต่เงินบาทที่อ่อนค่าช่วยหนุนการส่งออก
ปิดท้ายมีข่าว “เฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ซีอีโอเมืองไทยลิสซิ่ง (MTLS) มั่นใจรายได้และกำไรปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน และคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อปีนี้จะโตกว่าเป้าที่วางไว้ 30% คือ 1.65 หมื่นล้านบาท หลังยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 1 โต 35% และคาดว่าไตรมาส 2 จะโตต่อได้ 45% จากการขยายสาขาและผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น โดยปีนี้เตรียมเปิดสาขาใหม่ 350 สาขา จากปัจจุบันมี 500 สาขา
ส่วนสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะลุยครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าปล่อยเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท คิดดอกแค่ 29.50% หวังช่วยแบ่งเบาภาระรากหญ้า และแก้หนี้นอกระบบที่คิดดอกโหด นอกจากนี้ ยังมีแผนให้สินเชื่อบ้านและที่ดิน รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเดิมให้สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์เบอร์ 1 ของไทยและสินเชื่อส่วนบุคคล
นอกจากนี้ จะเน้นปล่อยสินเชื่อที่ดินให้ลูกค้าเกษตรกร วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย โดยบริษัทยังคงนโยบาย “Fast Cash” เน้นลูกค้าระดับรากหญ้าปล่อยวงเงินกู้ต่อราย 2-4 หมื่นบาท และคุมคุณภาพลูกหนี้ไม่ให้ค้างชำระเกิน 1 เดือน
ที่ผ่านมา คุณภาพลูกหนี้ค่อนข้างดี ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองแค่ปีละ 10-20 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้ากดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไม่ให้เกิน 1.5% ของสินเชื่อรวม!!
อินเด็กซ์ 51