ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ก.พ.58 ปิดที่ 1,601.77 จุด ลดลง 11.86 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 58,926.49 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 393.67 ล้านบาท
“สุกิจ อุดมศิริกุล” กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดดัชนีหุ้นไทยครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 1,650 จุด เป็นไปตาม ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้ที่จะโตได้ 20% สอดคล้องกับประมาณการจีดีพีที่จะเติบโต 4% และคาดปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปีนี้จะอยู่ที่เฉลี่ย 45,000 ล้านบาทต่อวัน ได้อานิสงส์จากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่น่าจะไหลกลับมาลงทุนในเอเชีย
กลยุทธ์การลงทุน แนะให้เลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจ Digital Economy รวมถึงกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้างที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ
แต่ในช่วงไตรมาส 2 ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับฐาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้น เตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ เพราะอาจได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้
ขณะที่ “เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ มองภาวะตลาดหุ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้าว่าจะยังคงผันผวน มีปัจจัยกดดันจากการเตรียมขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลออก โดยต้องจับตาดูว่าการอัดฉีดเม็ดเงินของกลุ่มยุโรปจะเข้ามาชดเชยได้แค่ไหน และประเมินว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะส่งผลดีในระยะกลางถึงยาว หรือในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวชัดเจนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก สุดท้ายแล้วเงินลงทุนจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งมีผลตอบแทนดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งตลาดหุ้นไทยรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีผลตอบแทนไปแล้วกว่า 100%
“ระยะสั้นดัชนีน่าจะมีความผันผวน เพราะจะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะจะดึง Fundflow ไหลออก แต่ไม่น่ากระทบมาก เพราะรับข่าวไปพอสมควรแล้ว ขณะที่เมื่อปี 56-57 มีเงินไหลออกไปมากกว่า 2 แสนล้าน ซึ่งเงินต่างชาติที่เหลืออยู่น่าจะเป็นในส่วนของการลงทุนระยะยาวมากกว่า
นอกจากนี้ เดือน ม.ค. กองทุนรวมหุ้น (ไม่รวมกองทุนวายุภักษ์) มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 3.6%จากสิ้นปี 57 สะท้อนว่านักลงทุนสถาบันในประเทศสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกองทุน LTF ซึ่งปกติจะมีปริมาณมากสุดเดือน ธ.ค. แต่ เดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีเม็ดเงินการลงทุนเพิ่มขึ้น 3.2% จากเดือนก่อนหน้า.
อินเด็กซ์ 51