ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 เม.ย.57 ปิดที่ 1,396.62 จุดเพิ่มขึ้น 9.14 จุดมีมูลค่าการซื้อขาย 36,192.83 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด BBL ปิด 183.50 บาทบวก 2.50 บาท, AOT ปิด 197.50 บาทบวก 4 บาท, SCB ปิด 162 บาทบวก 3.50 บาท, KBANK ปิด 183.50 บาทบวก 3.50 บาทและ CPF ปิด 28 บาทไม่เปลี่ยนแปลง
ตลาดหุ้นไทยยังเดินหน้าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับขึ้นจากกระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคส่วนประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามคือกรณีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้รับคำร้องกรณี “ไพบูลย์นิติตะวัน” ส.ว.สรรหาที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตรรักษาการนายกรัฐมนตรีจะต้องสิ้นสุดลง
เฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญม.182 (7) ประกอบม.268 จากกรณีการโยกย้าย “ถวิลเปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการสมช. แม้หลายสำนักวิเคราะห์จะยังไม่มีผลต่อการลงทุนมากนักเนื่องจากต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดีอีก 15 วันแต่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนหรือจุดพลิกผันทางการเมืองอีกครั้ง!!
บล.ฟินันเซียไซรัสมองแนวโน้มตลาดระยะสั้นคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นแต่จะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมาระหว่างวันทำให้ดัชนีมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯและท่าทีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช.ในสุดสัปดาห์นี้แนะกลยุทธ์การลงทุนแนะรอซื้อช่วงที่ตลาดอ่อนตัวหรือรอขายเพื่อทำกำไรบางส่วนเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นด้านเทคนิคประเมินแนวรับที่ 1,387 จุดและแนวต้านที่ 1,405 จุด
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ชี้หุ้นไทยมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาหลังดัชนีขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1,380 จุดมาได้แต่เมื่อดัชนีเข้าใกล้ระดับ 1,400 จุดจะมีแรงขายทำกำไรออกมาขณะที่พบพอร์ตโบรกเกอร์ (Prop Trade) ได้ซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาททำให้อาจเห็นแรงขายทำกำไรของ PropTrade ออกมาสำหรับประเด็นที่ต้องติดตามคือการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นวันที่ 3 เม.ย.นี้ มีประเด็น
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญรวมทั้งสถานการณ์การเมืองการชุมนุมของขั้วการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย
มองแนวโน้มตลาดมีลุ้นขึ้นทดสอบระดับ 1,400 จุดแต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรออกมาโดยมองว่าในระยะสั้นนี้ตลาดมี upside น้อยแล้วด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,387 จุดส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด.
อินเด็กซ์ 51